อิโรติก – กามวิสัยในอักษร

1 04 2009

Book Review โดย (…)

อิโรติก – กามวิสัยในอักษร

.

.

หมายเหตุ : อาจมีฉากหรือถ้อยคำที่ไม่สุภาพ โปรดอย่าอ่านขณะปั่นจักรยาน

.

ล่วงเข้าเดือนเมษา อากาศร้อนอ้าว เหงื่อไคลไหลย้อนในร่มผ้า อาจทำให้เชื้อราเติบโตว่องไวผิดปกติด แน่นอน ข้าพเจ้าไม่ได้หมายถึงว่า เราควรหาหนังสือประเภทดูแลความชื้นในร่มผ้ามาอ่านเป็นพิเศษ

อากาศร้อนราวนรกเช่นนี้ หนังสือที่อ่าน หากไม่เย็บเยียบผ่อนคลาย ก็คงเป็นหนังสือที่กระตุ้นอารมณ์ให้คึกคักตามเทศการวันหยุดยาวในเดือนนี้ ในวงการหนังสือปลุกใจเสือป่า (ทำไมต้องเสือป่านะ?) ต้องมีชุดภาพสาวๆนุ่งน้อยเปียกโซก บ้างก็กาฬเหงื่อบ้างก็พรมน้ำริมทะเล  ช่วงนี้ออกมาให้เห็นเป็นเหมือนงานกีฬาประเพณีในวงการบันเทิงเลยทีเดียว

คนรุ่นลุงคงนึกถึง หนังสือปกขาวส่วนคนหนุ่มผู้บ่าวสมัยนี้คงนึกถึงคลิปโป๊ เวลาเปลี่ยนอะไรๆก็พัฒนาตามกันไป แม้แต่ความหมายของการโป๊เปลือย

เมื่อเอ่ยถึงหนังสือปกขาว หลายคนก็คงจะนึกถึงหนังสือโป๊ แล้วถ้าพูดถึงคำว่า โป๊เราจะนึกถึงอะไรต่อจากนั้น?

ก็โป๊เปลือยไง”  เปลือยเมื่อไร ก็โป๊เมื่อนั้น

ข้าพเจ้ายอมรับว่า โจทย์ของธีมครั้งนี้เล่นเอาข้าพเจ้าเกาศีรษะจนหัวหมุนเลยทีเดียว ผมจะตั้งคำถามอย่างไร จะเริ่มหาประเด็นที่จะนำขึ้นมาตั้งตรงหน้า จากนั้นค่อยๆคลี่คลายกระดุมของปัญหาทีละเม็ด – แต่เฮ้ย!  นี่มันคอลัมน์บุ๊ครีวิวนะ  

เพื่อจำกัดขอบเขตของเนื้อหาไม่ให้กว้างไกลเกินจนยืดยาวมากนักสำหรับบทความชิ้นนี้ ข้าพเจ้าจึงขอกำหนดขอบเขตเรื่องราวอยู่ตรง ความเป็นอิโรติก (erotic) ฉากรักตามวิสัย ในวรรณกรรม  ความน่าสนใจในแต่ละรูปแบบวรรณกรรม ที่มีส่วนผสมของฉากรักวาบหวิวเป็นองค์ประกอบ

รูปแบบวรรณกรรมที่อยากยกขึ้นมาในที่นี้นั้น จึงขอยกขึ้นมา สามแบบ (จัดลำดับโดยผู้เขียนเอง ) จากวรรณกรรมฝั่งตะวันออก,ตะวันตก,และในประเทศเรานี้เอง เนื้อหาไม่น่าจะรัญจวนชวนขนลุก จนไปถึงให้เกิดอาการปั่นปวนท้องน้อยและเครื่องล่างเป็นแน่ และไม่ได้โฉ่งฉ่างเหมือนวรรณกรรมจำพวกนวลนางหรือเปิดบริสุทธิ์

ว่าแล้วก็มาลองดูเล่มแรก

Steppenwolf สเตปเปนวูล์ฟ : เฮอร์มานน์ เฮสเส : เขียน

สดใส : แปล

ผมโน้มตัวไปหาเธอ มาเรียใช้สองมือ ประคองศีรษะผม ค่อยๆรั้งไปจูบอย่างเนิ่นนาน ผมทรุดนั่งบนเตียงข้างเธอ บีบมือมาเรีย ขอร้องให้เธอพูดเสียงเบา ผมไม่อยากให้ใครได้ยิน ผมมองดวงหน้ากลมเอิบอิ่ม ที่หนุนอยู่บนหมอน ใบหน้านั้นสวยงามอัศจรรย์ งามราวดอกไม้ดอกโต เธอค่อยๆยกมือผมแตะริมฝีปาก จับมือผมสอดลงใต้ผ้าห่ม ปล่อยให้มือนั้นวางแนบหน้าอกอุ่นที่สะท้อนหายใจสม่ำเสมอ

สเตปเปนวูล์ฟ เรื่องราวของชายผู้มีจิตวิญญาณสองดวง ดวงหนึ่งนั้นคือเจ้าหมาป่าเปลี่ยวแห่งท้องทุ่ง สัตว์ป่ากระหายอยากโดยสัญชาติญาณ ดวงหนึ่งคือมนุษย์ผู้กอปรด้วยหลักความรู้ อุดมการณ์ และโหยหาความเป็นตัวตนในสังคม

การต่อสู้กันภายในระหว่างมนุษย์และเจ้าหมาป่า ทำให้แฮรี่ เจ้าของร่างรู้สึกเหนื่อยอ่อน และอยากยอมพ่ายแพ้ต่อจิตวิญญาณทั้งสอง เขาใช้ชีวิตไม่ต่างจากคนที่ตายแล้ว แต่ยังมีลมหายใจและเดินไปไหนมาไหนได้ จนเมื่อเขาได้พบกับหญิงสาวผู้หนึ่ง ซึ่งชักชวนให้เขารู้จักการเต้นฟอกทรอต และให้เขาได้ปลอยตัวเองจากความคิดของมนุษย์ผู้เคร่งเครียดกับอุดมคติ ดนตรีคลาสสิก และปรัชญา

สำหรับฉากรักในวรรณกรรมของเฮอร์เมนน์ เฮสเส นั้น เรียกได้ว่า สิ่งที่ผู้เขียนโป๊เปลือยออกมาอย่างถึงเนื้อถึงแก่นคือ อารมณ์ความรู้สึกในรูปรสสัมผัส ทั้งทางกายและภายในจิตใจ  จิตใจที่เสพสุขในรสกามรมณ์ เหมือนหมาป่ากระหายเลือดเนื้อ 

เนื้อหาบางช่วงนั้นมีฉากรัก ร่วมรักหลายจังหวะ ทว่าที่น่าสนใจ เลยยกขึ้นมาให้อ่านในที่นี้คือ ฉากรำพึงรำพันของเจ้าแฮรี่(พระเอกในเรื่อง)  เกี่ยวกับรสชาติของการเสพสมอารมณ์และความคิด

แต่ก่อนผมไม่เคยสัมผัสกับความรู้สึกแปลกๆ เช่นวันนี้ ได้สัมผัสอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างน่าแปลกใจ มีทั้งความขม ความหวาน  นี่คือความสุขที่ผมได้ประสบ มีทั้งความน่ารักและการยอมตัวของมาเรีย ทั้งความหวานและเริงรสสัมผัส ที่ผมได้ดูดดม และลิ้มรสความสำราญนั้นนับร้อยพันจากอารมณ์และเนื้อหนัง

สิ่งที่ผมเพิ่งรู้จักเมื่อตัวเองกลายเป็นคนแก่ไปแล้ว

ผมเอิบอาบอยู่ในความสุขหวานชื่น ดุจแอ่งน้ำที่กระเพื่อมพลิ้วพรายตลอดเวลา แต่นั่นเป็นเพียงเปลือกนอก ส่วนเนื้อในนั้นมีอะไรยิ่งใหญ่จนผมรู้สึกเครียดกับชะตากรรม

บางทีนี่อาจป็นจุดเข้มสุดในชีวิตผม และในบางทีความสงสัยของมาเรียอาจเป็นจริง บางทีนี่อาจเป็นคืนสุดท้ายที่เราอยู่ด้วยกัน และบางทีพรุ่งนี้อาจนำโชคชะตาใหม่ที่วกวนมาสู่เรา  ผมปราถนาเร่าร้อน  แต่ก็ประหวั่นจนแทบหายใจไม่ออกไปพร้อมๆกัน

ผมกอดมาเรียสุดอารมณ์ ในกายผมสว่างไสว ด้วยระเบิดสุดท้ายของแรงปราถนา ผมวิ่งวนไปรอบสวนของเธอได้กัดกินผลไม้รสหวานจากสวนสวรรค์แห่งนี้อีกครั้งหนึ่งแล้ว

 

สองบรรทัดสุดท้าย เป็นข้อความที่ข้าพเจ้ารู้สึกชอบเป็นพิเศษ มันทำให้ข้าพเจ้าจินตนาการต่อไปถึงสวนสวรรค์ของชายที่ชื่อแฮรรี่  ซึ่งจะว่าไปแล้ว เนื้อหาส่วนใหญ่มีบทสนทนาน้อยมาก แต่มีบทความคิดนึกของตัวละครมากมายเหลือเกิน ซึ่งในความคิดนั้นละเอียดละออยิ่ง บางท่านที่ไม่ค่อยชอบงานเขียนแนวนี้อาจเบื่อเอาง่ายๆ เพราะจะคล้ายๆกับการนั่งฟังคนบ่นตลอดเวลายังไงไม่รู้

อาจเป็นได้ที่ว่า สเตปเปนวูล์ฟ เป็นเรื่องราวของการต่อสู้ของจิตใจภายในเป็นหลัก เนื้อความจึงเป็นลักษณะความคิดนึกของตัวละคร ระหว่างหมาป่า กับ มนุษย์

 

แฮรี่พบ พบความเป็นมนุษย์ในตัวเองนั่นคือโลกของความคิดและความรู้สึก โลกของวัฒนธรรมและธรรมชาติได้รับการปลูกฝังสั่งสอน เวลาเดียวกันนั้น เขาได้พบกับความเป็นหมาป่าในตัวด้วย  นั่นคือโลกมืดของสัญชาตญาณ  ความป่าเถือนและดุดัน  สันดานดิบที่ยังไม่ได้รับการขัดเกลา  ทั้งๆที่แฮรี่แบ่งตัวเองในสองโลกนี้ค่อนข้างแจ่มชัด  รู้ว่าต่างฝ่ายต่างเป็นปรปักษ์กัน  แต่เขาก็ยังมีความสุขได้บางเวลา  ขณะเมื่อมนุษย์กับหมาป่าปรองดองกันในช่วงสั้นๆ

 

สำหรับข้าพเจ้าแล้ว แม้ว่าในเนื้อหาจะมีฉากความกระหายในกามรมณ์อยู่มากเสียหน่อย สำหรับเจ้าหมาป่าแฮรี่ แต่เจ้ามนุษย์แฮรี่ ก็สามารถข่มจิตคิดเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับหลักการใช้ชีวิต วิพากษ์สังคมในขณะที่ความหมดอาลัยตายอยากต่อโลกกำลังกลืนกินเขา ดนตรีแจ๊สและการเต้นฟอกทรอตช่วยเขาได้ แต่มากน้อยนั้นในตอนจบ ข้าพเจ้าคิดว่าผู้อ่านหลายท่านไม่น่าจะได้ข้อสรุปที่ตรงกัน สำหรับบทสุดท้ายของ

 

เจ้าหมาป่าเดียวดายตัวนี้ สเตปเปนวูลฟ์

 

musashi เซนอย่างมูซาชิ : บทรักของนักกลยุทธ์

โดย : สุวินัย ภรณวลัย

ชายหนุ่มกวาดตาเลื่อนผ่านใบหน้าของหญิงสาวลงไปตั้งแต่อกอูม เอวคอดกิ่ว สุดท้ายหยุดนิ่งที่ช่วงขาเรียวยาวที่ปรากฏออกนอกร่มผ้า ในใจเขาพลันบังเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดประการหนึ่งขึ้น

เหตุใดเรือนร่างของสตรีจึงดึงดูดใจบุรุษถึงเพียงนี้? ใช่เพราะราคะจิตหรือไม่?

 

ภาครบภาครักภายในจิตใจของนักกลยุทธ์ ฉากรบนั้นเป็นเรื่องราวที่เรียบเรียงเกี่ยวกับวิถีของนกรบวิถีแห่งพุทธ และวิถีเซน ส่วนในฉากรักนั้น เกือบทั้งหมดเป็นฉากรักในนิยายกำลังภายในเรื่อง เทพมารสะท้านภพ

บทหวิวในวรรณกรรมประเภทนิยายกำลังภายในนั้น อันที่จริงแล้วข้าพเจ้านึกถึงหลายช่วงตอน แต่นั้นก็เป็นเพียงตอนเล็กๆสั้นๆ และส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อคั่นอารมณ์ผู้อ่าน หลังจากที่ได้เห็นภาพการต่อสู้ฟาดฟันกันในเชิงยุทธ์แล้ว

หนแรกนั้น ข้าพเจ้าคิดว่าจะยกเอาเรื่องฤทธิ์มีดสั้น ของโกวเล้งขึ้นมา จำได้ว่ามีฉากหนึ่ง ระหว่างอาฮุยกับแม่นางผู้งานเป็นอันดับหนึ่งของแผ่นดิน ลิ้มเซียนยี้ จำได้แต่ว่าฉากนั้นเร่าร้อนจนผู้อ่านหายใจติดขัด (ลุ้น) ทว่าน่าเสียดายว่า หนังสือชุดเล่มนั้นข้าพเจ้าจับยัดกล่องส่งกลับบ้านไปเสียแล้ว – เสียดายแท้

ในขณะที่กำลังนึกๆ ถึงหนังสือเล่มอื่นๆ ข้าพเจ้าก็พลันเห็นหนังสือเล่มนี้ เรียงรายเข้าแถวอยู่กับหนังสือชุดของอาจารย์ สุวินัย ภรณวลัย ถ้าจำไม่ผิด เล่นนี้เป็นเล่มต่อจาก ภูมิปัญญามูซาชิที่เขียนขยายความเรื่องราวของวรรณกรรมมูซาชิไว้ เล่มนี้ออกมาพร้อมกันกับอีกเล่มหนึ่งชื่อว่า ‘36 เพลงดาบสยบมารที่ว่าด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับการเมืองสังคมในยุคของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ

ส่วนเนื้อหาในเล่มนี้นั้นได้แบ่งออกเป็น สี่ส่วน สี่ภาค

ภาค ๑ – เซนอย่างมูซาชิ – บทวิเคราะห์สืบเนื่องจากเรื่องมูซาชิ

ภาค ๒ – การซ่องเสพชีวิตของนักกลยุทธ์ – ว่าด้วยเรื่องหลักคิดหลักใช้ชีวิตของนักกลยุทธ์

ภาค ๓ – บทรักของนักกลยุทธ์ – ฉากต่างๆในนิยายกำลังภายในเรื่อง  ‘เทพมารสะท้านภพ,มังกรคู่สู้สิบทิศ,เจาะเวลาหาจิ๊นซี

ภาค ๔ – เซนของพุทธะ – ความหมายของคำว่าพุทธะ และ เซนในพุทธะ

เทพมารสะท้านภพ เป็นนิยายกำลังภายในซึ่งประพันธ์ขึ้นโดย หวงอี้ ผู้เขียนเรื่อง มังกรคู่สู้สิบทิศ เจาะเวลาหาจิ๊นซี และ จอมคนแผ่นดินเดือด ซึ่งแต่ละเรื่องนั้น มีความยาวของเนื้อหามาก มีสหายท่านหนึ่งของข้าพเจ้าเคยกล่าวว่าเหมือนอ่านหนังสือโป๊เลยอันนี้เป็นจริงอย่างไรข้าพเจ้าก็ไม่ทราบได้ ด้วยเพราะว่า ยังไม่เคยอ่านผ่านสายตาผลงานของนักเขียนท่านนี้แม้เพียงเล่มเดียว ( รู้สึกว่าเคยอ่านจอมคนแผ่นดินเดือดได้ครึ่งเล่ม บัดนี้ก็ยังคงครึ่งเล่มเหมือนเคย )

ชายหนุ่มถูกมือเรียวงามไร้ตำหนิของหญิงสาวเชยคางไว้ ดวงวิญญาณแทบหลุดลอยออกจากร่าง ไหนเลยสะกดข่มกลั้นได้  คว้ามือนุ่มนิ่มที่เชยคางเขาเอาไว้ ดึงมาแนบกับใบหน้าตัวเอง  การสัมผัสที่กัดกร่อนกินใจนี้สร้างความลุ่มหลงงมงายแก่เขา

บทรักของนักกลยุทธ์  นั้นได้คัดเอาบางช่วงบางตอนของการเสพรสกามรมณ์ของเหล่าจอมยุทธ์ในวรรณกรรมประเภทนิยายกำลังภายใน ซึ่งรูปแบบการนำเสนอนั้น ก็ไม่ได้ว่าจะเจาะจงนำเสนอให้เห็นถึงเนื้อหนังความอล่างฉ่าง แต่ประการใด หากแต่กลับเป็นเรื่องราวของการแลกเปลี่ยนกำลังภายใน เหมือนหนังจีนยังไงยังงั้น

หญิงสาวคล้ายไม่อาจอดทนรับได้ ร่างอ้อนแอ้นสั่นสะท้าน ชายหนุ่มพลันคลายมือจากการยึดกุมมือหญิงสาว ยื่นสองมือจับหัวไหล่นาง รั้งดึงเข้ามากอด หญิงสาวส่งเสียงครางคำหนึ่ง  ยกมือทาบกับทรวงอกอันผึ่งผายของชายหนุ่ม ยับยั้งมิให้เรือนร่างทั้งสองแนบชิดกัน

ไม่ใช่ว่าข้าพเจ้าจะอยากขัดจังหวะฉากเลิฟชุดนี้หรอก เพียงแต่อยากให้ลองนึกดูถึงลีลาการเอียงอาย หรือท่วงท่ามารยาทของตะวันตกและตะวันออก เรื่องราวกำลังภายในนั้น ออกจะมีท่วงจังหวะลีลาในการบ่มเพาะอารมณ์เนิ่นนานสมควร บางครั้งอาจโดนขัดจังหวะด้วยกระบี่อาวุธลับ หรือเทียนอาจดับและมีการแย่งชิงคัมภีร์เกิดขึ้น น้อยนักที่จะเห็นฉากนับแต่เริ่มจนจบ

ชายหนุ่มหน้าแดงฉาน ดวงตาสาดประกายอันร้อนแรงที่สามารถหลอมละลายนาง ก้มศีรษะลงจุมพิตกับริมฝีปากสีแดงสดของนาง

หญิงสาวร้อง อืมม์ คำหนึ่ง ร่างสั่นสะท้านราวกับนกน้อยที่ได้รับความตื่นตระหนก สองมือผลักใสชายหนุ่มอย่างอ่อนแรง

แต่ปฏิกริยาของนางนี้กลับปลุกเร้าพลังภายในกายของชายหนุ่ม  ยามนี้ต่อให้นางดิ้นรนอย่างรุนแรง ชายหนุ่มก็ไม่ยอมปล่อยปละละเว้นนาง อย่าว่าแต่เพียงขัดขืนพอเป็นพิธี

ชายหนุ่มรวบกระชับสองมือ ในทีสุดโอบหญิงสาวเป็นผลสำเร็จ

หญิงสาวส่งเสียงครางอีกครา  คล้ายไม่อาจต้านทานการบุกรุกของชายหนุ่ม  กำแพงอันแข็งแกร่งแตกเป็นช่อง พลังความร้อนที่เต็มเปี่ยมประหนึ่งน้ำป่าม้วนกวาดพสุธาทะลักสู่เส้นชีพจรของหญิงสาว นางถึงกับลืมสิ้นทุกสิ่ง ยกมือเรียวงามโอบรอบคอชายหนุ่มไว้

ชายหนุ่มจมอยู่ในโลกอันเลื่อนลอย รู้สึกว่าตัวเองปลดปล่อยโดยสิ้นเชิง ถ่ายทอดพลังชีวิตและลมปราณเข้าสู่ร่างหญิงสาวไม่หยุดยั้ง  ขณะที่หญิงสาวคล้ายผืนปฐพีอันไพศาล ดูดซับอุทกธารที่เขาถ่ายเทเข้ามา  พร้อมกันนั้น  ภายในร่างหญิงสาวบังเกิดความร้อนที่ละเอียดสายหนึ่ง  ถ่ายทอดเข้าสู่ร่างของเขาเช่นกัน

ฉากเร่าร้อนเช่นนี้ ยังคงมีเนื้อหาเกี่ยวกับการถ่ายเทกำลังภายในอีก สมแล้วที่เป็นนิยายกำลังภายใน  หากใครจะลองหาเล่มนี้มาอ่านเพื่อบทที่๓ โดยเฉพาะ อยากให้ลองหา เทพมารสะท้านภพมาอ่านทั้งชุดเลยดีกว่า ส่วนเนื้อหาในเล่มนี้ ส่วนอื่นต้องบอกว่า เกี่ยวข้องกับหลักคิดและหลักวิถีชีวิตของชาวยุทธ์

ไม่ใช่แค่นักกลยุทธ์ ชาวยุทธ์อย่างเราๆก็น่าจะศึกษาไว้ เพื่อเสริมสร้างกำลังภายใน ให้ฝ่าพ้นไปในสังคมมึนงงขณะนี้

ทั้งสองล้วนรู้สึกว่า จิตวิญญาณของตนถูกยกระดับสูงขึ้น คล้ายดำรงอยู่คู่ดินฟ้า เกิดการก่อเกิดไม่หยุดยั้ง หมุนเวียนไม่ขาดตอน เนิ่นนานให้หลัง ชายหนุ่มถอนร่างจากริมฝีปากของหญิงสาว สีหน้าพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมจริงจัง อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ถามเบาๆด้วยความเจ็บปวดว่า

ท่านใช่ได้รับบาดเจ็บบอบช้ำภายในหรือไม่

เทพมารสะท้านภพ : หวงอี้ –

 

rong ผู้ดีน้ำครำ : ’รงค์ วงษ์สวรรค์

รวมพิมพ์ครั้งแรก สิงหาคม ๒๕๒๑
สำนักพิมพ์ปิยะสาส์น

แทนที่การเช็ดน้ำตาให้หล่อนด้วยหลังมือเงือดตบ เขาประคองเต้านมหล่อนไว้อย่างทะนุถนอม ผิวดำคล้ำของหล่อนฝาดในแสงตะเกียงน้ำมัน และหล่อนไม่ขัดขืนการลูบไล้ของเขา  ปลายจงอยเหี่ยวย่นเหมือนพุทราแห้งแดดขยับไหว แล้วปลั่งเป็นสีกลีบบัว  ไรขนอ่อนพลิ้วในลีลาของสาหร่ายโดยแรงน้ำเขย่าแผ่วเบาขนลุก..หล่อนพึมพำ

 

วรรณกรรมสำหรับนักการเมือง ที่ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือหรือสำรวจดูตัวเอง  เรื่องราวความเป็นไปของนักการเมืองระดับรัฐมนตรี ที่กำลังดิ้นรนต่อสู้กับตำแหน่งที่กำลังหลุดลอย ลูกชายที่ไม่ค่อยถูกโรคกับความรวยและอำนาจ ผู้ซึ่งไฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียน และอีกหลายชีวิตที่อาศัยในหมู่บ้านแห่งน้ำครำ ขุนหวนวารีผู้ดีตกอับชอบกินของค้างคืน

ฉากรักที่เรียกอารมณ์ผู้อ่าน (ข้าพเจ้า) ให้ปั่นป่วนและหายใจไม่ทั่วท้องของเรื่องนี้ เห็นจะไม่พ้นฉากรักระหว่างลูกชายท่านรัฐมนตรีกับสาวใช้ที่เติบโตมาด้วยกัน และที่เสียดสีได้ถึงใจน้ำครำก็คงเป็นฉากโมแรนติค (ภาษาเพรียวนมของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์) ระหว่างมิซิสนวลแข,แฟร้ง สำรวย สามีภรรยาผู้น่ารักน่าหยิกแห่งกระท้อมเหนือหนองน้ำครำ

นวลจ๋า

จ๋า..

เขายิ้มเต็มปากด้วยความปลอดโปร่ง

หนาวไหม?”

ฮื่อ หนาว นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว?”

ยังไม่สว่าง

ตัวปลุกเขาทำไมจ๊ะ?”

อยากคุยกับนวล..

คุยอะไรกัน? เขาคุยกับตัวเมื่อตอนหัวค่ำจนหมดเปลือกแล้วนี่นะ

ชายหนุ่มโดยความสันทัดจัดเจนกับหล่อน รู้ว่าหล่อนอารมณ์ผ่องแผ้ว

มันนึกอยาก

แหม-กำลังฝันเพลินๆ

ฝันอะไร?”

เอามือออกก่อนเถอะ อูยย์ – เย็นชิบหาย

หล่อนเพิ่งรู้สึกว่ามือเขาอยู่ที่ไหนและยิ้มวาววาม

หล่อนค้อนควักลุกยืนเดินออกไปชานบ้าน เขาได้ยินเสียงจ้วงน้ำใส่ตุ่ม และหล่อนบ่นถึงความเย็นเฉียบของมัน หล่อนพูดพอได้ยินเตือนให้เขาใส่ปลอก กระท่อมนรกกำลังเป็นวิมาน

ผู้ดีน้ำครำ มีเรื่องราวของผู้คนสองกลุ่ม

กลุ่มหนึ่งนั้นคือบรรดานักการเมืองคุณหญิงคุณนายที่ได้ผลพลอยจากตำแหน่งทางการเมืองของสามี สังคมในบาร์เหล้า กามรมณ์ของชนชั้นสูง ธุรกิจการเมือง การแบ่งปันผลประโยชน์และการเอาตัวรอดโดยสร้างหน้ากากของนักการเมือง มีตัวแสดงมีคนเขียนบท แต่ละฉากดำเนินกันไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสังคมหลังจากเผด็จการทหารลงจากอำนาจ เป็นวงจรน้ำครำที่ยังคงดำเนินต่อไป ไม่ว่าสมัยไหนสมัยใด

อีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มชาวบ้านผู้ยากไร้ข้นแค้นจนเคยชิน (จน-เคยชิน) ที่ต้องคอยเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงและเป็นไปของระบบสังคมการเมือง คอยปรับตัวเพื่อให้ลมหายใจตัวเองนั้นอยู่ได้ หากเกิดอะไรขึ้นในการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาล พวกเขาเพียงอ่านหนังสือพิมพ์ ร้อง อ่อ.. จากนั้นจึงหันหน้าเข้าวงสนทนา เฮฮาเอนจอยรูปากกันตามฐานะ ดวงอาทิตย์ขึ้นและตกมีความหมายกว่านาฬิกาข้อมือ

แฟร้ง สำรวย ผิวปากเพลงแบล็ค ซูเปอร์แมนขณะรอหล่อนล้างเนื้อล้างตัวบางส่วน ความหนาวไม่ยินยอมให้ใครอาบน้ำโดยไม่จำเป็น ถึงอย่างไรหล่อนยังมีความรู้สึกของหญิงอยากเป็นคนสวยกับผัว อยากเป็นคนหอม แต่หล่อนไม่มีเพอร์ฟูมราคาแพง นวลแขฟอกสบู่เกลี้ยงเกลาแล้วพรมแป้งขวดละเจ็ดบาทกลิ่นหอมประหลาด

หลอนล้างซอกแขนด้วยการเอี้ยวใบหน้าเช็ดกับไหล่ หล่อนได้กลิ่นเหม็นหมักหมม มันเป็นกลิ่นเปรี้ยวเหมือนขับถ่ายออกมาจากเหล้าบูด แล้วพรมแป้งน้ำขวดเดียวกันนั้น

นวลแขพร้อมแล้วจะค้นหาความเกษมกับเขา

 

ลองสืบค้นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์บางช่วงนั้น ฉากอิโรติก หรือนิยายวรรณกรรมที่เขาเรียกว่าโป๊เปลือยนั้น ในความหมายของเมืองนอกเมืองนานั้น หาได้มีเพียงมุมมองด้านกามวิสัย หรือกิจกรรมในร่มผ้าเพียงเท่านั้น

ในการปฏิวัติฝรั่งเศส เชื่อหรือไม่ว่า เบื้องหลังการปฏิวัตินั้น หนังสือโป๊ (pornography) นั้นเป็นนิยายที่มีเนื้อหาตีแผ่ความเน่าเฟะของชนชั้นสูง โดยสอดเสียดไว้ในวรรณกรรมดังกล่าว ซึ่งขณะนั้น หนังสือประเภทนี้นับเป็นหนังสือต้องห้าม ไม่ได้หมายถึงว่าในเชิงอนาจาร หากแต่ที่ต้องห้ามนั้น เพราะหนังสือเหล่านี้มีผลตัวความนึกคิดของคนในสังคม แน่นอนว่าสังคมที่คนส่วนใหญ่อ่านหนังสือมากกว่าการดูทีวีเหมือนสมัยนี้

ถึงตรงนี้แล้ว คำที่ว่า โป๊ในความหมายของวรรณกรรม น่าจะหมายถึง การตีแผ่ความจริง เหมือนการจับคนถอดเสื้อผ้าให้เขาได้เห็นถึงเนื้อใน ภายใน กรีดเนื้อหนังออกให้เห็นถึงกล้ามเนื้อขดไส้อวัยวะ และกรีดลึกลงไปอีกจนถึงระดับของหัวใจและจิตวิญญาณ

ผู้ดีน้ำครำ จึงเป็นดั่งคล้ายภาพฉายอันโป๊เปลือยของชีวิตผู้คน ตั้งแต่ระดับนักการเมือง ผู้แสวงผลประโยชน์ในลำดับถัดมา และเหล่าบรรดาประชาชนรากหญ้า ที่ลอยคอแกว่งไกวไปในกระแสน้ำครำ เป็นเรื่องราวเก่าแก่ที่ไม่ว่าจะนานนับนานเพียงใด หากได้ลองหยิบขึ้นมาอ่านใหม่ในอีกหลายปีข้างหน้า จะต้องฉุกคิดเหมือนกันว่า เฮ้ย.. นี่มันไม่ได้ต่างไปจากเมื่อร้อยปีที่แล้วเลยนี่หว่า

ข้าพเจ้าไม่อาจทำนายอนาคตได้ เพราะอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ตราบใดที่น้ำครำยังหอมยวนใจสำหรับ ใครบางคนวรรณกรรมที่ต้องทำหน้าที่โป๊เปลือย

ก็ยังคงมีอยู่เรื่อยไปตราบนานเท่า นาน

 

ชายโครงซ้ายของหล่อนคงจะรวดร้าว หล่อนจึงนอนตะแคงขวาตลอดเวลา เขานึกสงสารหล่อนบ้าง เขาเลื่อนปากพรมจูบหล่อนบนนูนเนินอื่น

มือซุกซนพยายามเร่งเร้า

และเขาพร่ำกระซิบถ้อยคำอ่อนหวาน กับหล่อนเหมือนในนิยายรักของผู้ดี

ผมรักคุณ ถ้าผมไม่ใช่ผู้ชายคนแรก ก็ขอเป็นคนสุดท้ายของคุณ

แหมหมั่นไส้!

ถึงคุณไม่ใช่ดอกฟ้า แต่ก็เป็นดอกดินที่ผมหวงแหน

ตัวแกล้งพูดละซี..

สาบาน! ผู้หญิงคนไหนไม่เคยให้ความสุขกับผมได้ซาบซึ้งเหมือนคุณแฟร้งสำรวย พูดด้วยความรู้สึกของเห็ดโคนชำแรกปริดินร่วนชื้น

เขาก็ซาบซึ้งกับตัวไม่เคยเบื่อเลย อุ๊ย จั๊กจี๊.. ทำไมต้องเกาตีนด้วยจ๊ะ?”

มันเกี่ยวกับซีลลิ่ง..

ซีลลิ่งอีกแล้วหล่อนเขยิบหนี ตัวจูบเขาที่ซอกคอหน่อยซิ แล้วก็ที่ติ่งหู ตัวรู้นี่นาว่าเขาชอบ เอ๊ะ! ตัวจะทำไมเขาน่ะ?”

นักรักแห่งสลัมริมคลองกระซิบ “……”

 

บ้า! หน้าด้าน! ไม่เอา – เขาไม่ใช่หมานะ

 

หมายเหตุ : คำว่า pornography (โป๊) มาจากศัพท์ภาษากรีกคือคำว่า Porni (prostitude – โสเภณี) บวกกับคำว่า Graphein (to write – เขียน) รวมแล้วหมายถึง "การเขียนเกี่ยวกับเรื่องราวของโสเภณี". จะเห็นได้ว่าแรกเริ่มนั้น ศัพท์คำนี้ก็ได้ถูกนิยามขึ้นมาให้หมายถึงผลงานศิลปะหรือวรรณกรรมใดๆก็ตาม ที่ได้วาดหรือบรรยายถึงชีวิตของบรรดาโสเภณีมานับตั้งแต่ต้น

(ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน http://www.midnightuniv.org/finearts2544/newpage2.html)

 


เลือกคำสั่ง

Information

ใส่ความเห็น