The Touch of SHADOW
.
. เขียนบนที่นอนชั้นบนของรถไฟ . ปลายเพื่อนรัก… . โปสการ์ดใบนี้เขียนมาเพื่อเป็นการขอบคุณเธอที่เป็นเพื่อนที่ดีของฉัน ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา และยังเป็นเพื่อนร่วมทางที่น่ารักในการเดินทางครั้งนี้อีกด้วย ฉันรู้สึกดีจริง ๆ ที่ได้พูดคุยกับเธอตลอดเวลาที่เราโดยสารรถไฟกลับกรุงเทพ ฯ ฉันคิดว่าการรับฟังและการแบ่งปันทุกข์สุขระหว่างเราทั้งสองคนเป็นไปอย่างสมดุลดี มีคนจำนวนไม่มากนักที่เป็นผู้พูดและผู้ฟังที่พอดีแบบนี้ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดตรัง ฉันมองเห็นความเบิกบาน อันส่องประกายทางสายตาผ่านมาจากข้างในหัวใจของเธอ เสียงหัวเราะอันแจ่มใสเวลาเราพูดคุย ดำน้ำ ถ่ายภาพ หรือว่าเสียงร้องเพลงตามบทเพลงรักจากโทรศัพท์มือถืออย่างเป็นสุขของเธอ ก่อนที่เราจะหลับตาลงในคืนวันนั้น สิ่งเหล่านี้ทำให้คืนวันและบรรยากาศของการเดินทางในครั้งนั้น เป็นไปด้วยความน่ารักและสวยงามยิ่ง… . เป็นอีกครั้งที่ฉันรู้สึกว่า โลกหมุนไปเพราะความรัก… . . โปสการ์ดใบนี้เป็นภาพของถ้ำมุกหรือถ้ำมรกตที่พวกเราได้มีประสบการณ์ลอดผ่านเข้าไปด้วยกัน เธอจำได้ใช่ไหมจ๊ะ? ไม่ใช่เรื่องง่ายดายอย่างที่ฉันได้คาดคิดไว้ก่อนเลย กว่าเราจะผ่านจากปากถ้ำสู่ปลายทางอีกด้านหนึ่ง เริ่มตั้งแต่วินาทีแรกที่เราได้มาถึงเกาะมุก และต้องพบกับความผิดหวังที่ไม่สามารถลอดเข้าไปภายในถ้ำมรกตได้ เนื่องจากเป็นเวลาที่น้ำกำลังขึ้น สิ่งนี้สอนให้เรารู้จักการรอคอย กับบางจังหวะของชีวิตที่ไม่เป็นไปอย่างที่คิดหมาย แล้วความอดทนที่มี จะทำให้เราพบกับประตูสู่ความหวังนั้นได้ ก่อนเข้าสู่ปากถ้ำพวกเราต้องเกาะเสื้อชูชีพกันให้แน่น และสามัคคีร่วมแรงร่วมใจกันปั่นจักรยานน้ำเข้าไป เป็นนาทีที่ฉันรู้สึกแปลกใหม่ แต่ก็อดที่จะตื่นเต้นกับหนทางข้างหน้าและสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตมาก่อนแบบนั้นไม่ได้ น้ำที่ปากถ้ำเป็นสีเขียวมรกตใสและสะท้อนให้ผนังถ้ำเป็นสีเขียวมรกตที่สวยงามเช่นเดียวกัน ตื่นตาตื่นใจกับความงดงามได้ไม่นาน ข้างในใจที่เต้นระรัวก็เริ่มเยียบเย็น กับความมืดที่เข้าคลี่คลุม หากไม่มีเพื่อนรักอย่างเธอและคนอีกจำนวนหนึ่งเข้าไปด้วย เส้นทางอันมืดมิดข้างในถ้ำคงชวนหวาดหวั่น… . . มาคิดดู… ความมืดที่รายล้อมเรานั้น อันที่จริงก็คือ “ เงา ” ของยอดเกาะมุกที่บดบังแสงจากดวงตะวันไว้ ได้ชื่อว่า “ เงา ” เป็นสิ่งที่ดูเหมือนมีตัวตน แต่เราก็ไม่เคยสัมผัสตัวตนของเงาได้อย่างแท้จริง เช่นกันกับความมืดมิดภายในถ้ำ ที่อาจดูเหมือนสามารถสัมผัสใจเราได้ ทำให้เราเกิดเป็นความรู้สึกต่าง ๆ เช่น หวาดหวั่น หวาดกลัว และบ่อยครั้งที่เงาสัมผัสใจเราให้รู้สึกมืดมน คล้าย ๆ เดินวนอยู่ในถ้ำที่มองไม่เห็นแสงสว่าง แต่แค่เพียงเรามีสติแล้วเข้าใจในธรรมชาติรอบกายและภายในใจ เราก็จะสัมผัสได้ถึงความจริงที่ถูกบดบังไว้ด้วยเงามืดนั้น และไม่ใช่เรื่องยากเลย ที่เราจะพบว่า ที่ปลายทางอีกด้านหนึ่งของถ้ำอันมืดมิดนั้น มีแสงสว่างรอเราอยู่ เมื่อเราสามารถก้าวพ้นหรือว่ายน้ำออกไปได้ ใจของเราอาจได้สัมผัสกับความจริงแท้ โดยความจริงในความมืดมิดจะเป็นสิ่งที่ค่อย ๆ เลือนลับใจ… . . . . แด่…ปลายเพื่อนรัก และผู้คนในเงามืด |
.
.
เบื้องหลังของด้านหลัง . ในฤดูร้อนของปี 2552 ฉันมีโอกาสได้เดินทางไปภาคใต้กับเพื่อนสาวที่รักอีก 2 คน ล้อของรถบัสประจำทางที่เราโดยสารเคลื่อนจากสายใต้ใหม่ในยามดึกของคืนหนึ่ง และมาสิ้นสุดเส้นทางที่สถานีขนส่งของ “ จังหวัดตรัง ” ในตอนเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น จังหวัดตรังเป็นจังหวัดที่ฉันเพิ่งเคยไปเยือนเป็นครั้งแรก และฉันก็ได้พบกับความประทับใจในทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เพียงแค่บทสนทนาจากวิทยุท้องถิ่น ก็ทำให้รู้สึกได้ถึงความน่ารักของผู้คนที่นั่น และเมื่อเราไปถึงบริษัททัวร์ที่ได้จองไว้ พนักงานก็ต้อนรับเราด้วยอาหารเช้ามือใหญ่ที่ทำให้เราอิ่มหนำสำราญ มัคคุเทศก์พาเราขึ้นรถไปยังท่าเรือหาดยาวในอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมที่อยู่ไกลจากตัวเมืองถึง 45 กม. ทิวทัศน์สองข้างทางนั้นทำให้ฉันรู้สึกเพลิดเพลินใจ ป่าต้นยางพาราที่เป็นระเบียบสวยงาม ถนนราดยางมะตอยซึ่งทอดยาวไกลจนลิบตา วัวสีน้ำตาลแทะเล็มหญ้าอยู่ข้างทาง เป็นความงดงามที่จัดวางได้อย่างลงตัว เราขึ้นเรือไม้ชั้นเดียวมุ่งหน้าสู่หมู่เกาะกลางทะเลสีเขียวมรกต บนเรือเราได้รับการแนะนำเรื่องการดำน้ำตื้นจากครูสอนดำน้ำซึ่งหลายคนมีอาชีพเป็นตำรวจน้ำ ใต้ท้องทะเลที่ลึกเพียงแค่ 5-6 เมตรนั้นมีอันตรายมากมายแฝงอยู่ภายใต้ความสวยงาม ทำให้เราต้องคอยระลึกในคำสอนของครูสอนดำน้ำ ตั้งแต่เริ่มแรกที่เราลงไปสัมผัสผิวน้ำและทุกขณะที่แหวกว่ายอยู่ในท้องทะเล เรือนำเราเทียบใกล้เกาะหลายเกาะในทะเลตรัง เช่น เกาะกระดาน เกาะเชือก และเกาะม้า เราลงดำน้ำแบบ Snorkeling กันที่เกาะเหล่านั้น ทันทีที่ฉันก้มหน้าลงให้สายตาจมอยู่ภายใต้ผิวน้ำ โลกที่เคยเป็นอยู่ในทุกวันก็พลันเปลี่ยนไป สิ่งมีชีวิตที่ได้พบเจอนั้น แม้ว่าจะไม่สามารถพูดคุยกันได้เช่นเพื่อนมนุษย์ทั่วไป แม้อาจจะมีพิษมีภัยกับเราหากไม่ระมัดระวัง แต่ฉันก็แน่ใจว่า…ภาพความสวยงามและทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในท้องทะเลที่นั่น ล้วนเกิดขึ้นจากความเป็นไปโดยธรรมชาติ เป็นปรากฏการณ์ที่ธรรมชาติเสกสรรขึ้นมาเพื่อให้ตนเองสามารถดำรงอยู่บนโลกใบนี้ได้ โดยไม่มีเจตนาที่จะห้ำหั่นเบียดเบียนซึ่งกันและกัน อีกเกาะหนึ่งที่เรือของเราได้เทียบใกล้ นั่นคือเกาะมุก เกาะที่มีถ้ำอันสวยงามซึ่งมีชื่อว่า “ ถ้ำมรกต ” ตั้งอยู่ ภาพในโปสการ์ดนี้เป็นภาพของถ้ำมรกต และที่เห็นในภาพคือวิธีการเข้าไปภายในถ้ำ โปสการ์ดใบนี้มิได้ได้มาจากเกาะมุกหรือถ้ำมรกต หากแต่ฉันหยิบมาจากชั้นวางโปสการ์ดที่ท่าเรือหาดยาว ปลายอีกด้านหนึ่งของถ้ำมรกตนั้น มีพื้นที่กว้างประมาณ 2 ไร่ เป็นหาดทรายขาวและน้ำทะเลใส น่าแปลกใจที่ผู้คนมากมายต่างกระตือรือล้นที่จะผ่านถ้ำแห่งนั้นเข้าไป เพื่อพบกับพื้นที่เล็ก ๆ ในลักษณะนั้น บางที…สิ่งท้าทายและการได้ทำสิ่งแปลกใหม่ในชีวิต อาจเป็นแรงจูงใจสำหรับคำตอบในการผจญภัยและค้นหาของพวกเขาก็เป็นได้ เรือใหญ่ลำนั้นส่งเราสามคนกลางทะเล เราต่อเรือหางยาวเล็ก ๆ เข้าสู่เกาะลิบง เกาะใหญ่ของจังหวัดตรังซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ของพะยูน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ในน้ำ เป็นที่น่าเสียดายที่ในวันต่อมาเราขึ้นเรือไปเพื่อตามหาตัวจริงของพะยูน แต่เราก็ไม่เห็นพวกเค้าแม้สักตัว เรากลับมาเล่นน้ำทะเลใสและหาดทรายสวยกันที่เกาะลิบงในบ่ายวันนั้น เมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนคล้อยลงจากกลางฟากฟ้า ลมทะเลพัดมาเย็นสบาย ฉันเอนหลังนอนอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ที่วางอยู่ในเรือนหลังคามุงจากใต้ต้นมะพร้าวริมทะเล ทอดสายตาสู่ท้องทะเลไกล ๆ เบื้องบนนั้นเมฆครึ้มกำลังก่อตัวอยู่ มีคนเคยบอกว่า มาภาคใต้ถ้าไม่โดนฝน ก็เสมือนมาไม่ถึงภาคใต้ เบื้องบนเมฆก้อนนั้น ดวงตะวันกำลังฉายแสง และด้านล่างของหมู่เมฆ เงาดำอาบบนผิวน้ำเป็นบริเวณกว้าง… ฉันอดมิได้ที่จะคิดอะไรเรื่อยเปื่อยผสมผสานไปในเสียงคลื่นและสายลมพัดโบกพลิ้ว มองภาพเงาเมฆเบื้องหน้า เปรียบเทียบไปแล้วช่างคล้ายคลึงกับสัมผัสความคิดของคนเรา ความคิดของเรานั้นบ้างสัมผัส บ้างขัดแย้งกัน จนบางครั้งทำให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจ แต่ในความจริง…ความคิดของเราก็คล้ายเงาของหมู่เมฆ ที่ไม่ได้สัมผัสกันอย่างแท้จริง แต่เกิดจากตำแหน่งของมุมความคิดที่อาจแตกต่างกัน แค่เพียงเราจะเข้าใจว่า มวลความคิดเหล่านั้น แท้จริงแล้วไม่มีตัวตนที่แท้จริง เป็นเพียงสิ่งสมมติที่เราปรุงแต่งขึ้น ณ ขณะใดขณะหนึ่ง และเมื่อสิ้นสุดเวลา มวลความคิดก็อันตรธานไป คล้ายกับเงาเมฆเมื่อยามพระอาทิตย์ลับลาฟ้า… . ก่อนลาจากเกาะลิบง พวกเราได้ไปเดินสำรวจสภาพชีวิตความเป็นอยู่ บ้านเรือนผู้คน และธรรมชาติบนเกาะลิบง ฉันรู้สึกขอบคุณครูสอนดำน้ำที่เป็นมัคคุเทศก์ที่ดี พาเราท่องเที่ยวตลอดระยะเวลาที่นั่น ขอบคุณชาวตรังในอัธยาศัยไมตรีที่งดงามมาก ขอบคุณธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ที่มอบสิ่งที่ดีให้กับเรา . . ความทรงจำเหล่านี้เป็นเสมือนเงาของความเป็นจริง ที่ทอดยาวปรากฏขึ้นมาเสมอเมื่อโมงยามของวันเวลาฉายส่องยังความคิดถึงในดวงใจ และเมื่อคราใดที่วันเวลาฉายผ่าน เงาความทรงจำเหล่านั้นจะลางเลือนไปชั่วขณะ แล้วความจริงครั้งใหม่ก็จะเผยตัวขึ้นมา พร้อม ๆ กับเงาของความจริงครั้งต่อมาที่จะทาบทา… .
. . ขอขอบคุณ |
.
ใส่ความเห็น