.
ก้าวต่อก้าว โดย สารากร
ณัฐรัช ฐาปโนสถ นักวิ่งข้ามรั้ว(เพื่อ)สังคม
.
.
กำแพงที่เรามองไม่เห็นนั้น น่าสนใจยิ่งกว่ากำแพงที่เราสามารถคะเนความสูงได้มากมายนัก เพราะสิ่งที่เรามองไม่เห็นนั้นมันสุดจะคาดเดา เฉกเช่นกรอบรั้วของสังคมที่มีค่าผันแปรไม่สิ้นสุด ใครกันที่จะข้ามรั้วที่ว่านี้ไปได้ ท่ามกลางสังคมที่อุดมไปด้วยทุนนิยมที่นับวันจะส่งผลให้ผู้คนต้องเร่งสร้างกำลังทรัพย์มากกว่าอย่างอื่น
สารากรได้มีโอกาสพบและพูดคุยกับนักต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเขามีหน่วยก้านดีพอที่จะมาเล่าให้ฟังถึงอุดมการณ์และความหวังดีต่อโลก ต่อสิ่งแวดล้อม โดยเขาวิ่งข้ามรั้วที่เรียกว่า เงิน ที่สังคมบัญญัติไว้ เขาคนนั้นคือ “ณัฐรัช ฐาปโนสถ” เจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาการจัดการภัยพิบัติภาคประชาชน มูลนิธิกระจกเงา ลองอ่านความคิดของเขาเพื่อคะเนความสูงของกำแพงรั้วที่เราเองก็อยากจะข้ามกันนะ ว่าจะสักเท่าไหร่กันเชียว
สารากร : ทำงานเกี่ยวกับอะไรในโครงการพัฒนาฯบ้างคะ
ณัฐรัช : ทำงานฝ่ายวิชาการให้กับโครงการนี้ครับ
สารากร : โครงการนี้ครอบคลุมงานด้านไหนบ้างคะ อยากให้อธิบายภาพรวมของโครงการ
ณัฐรัช : โครงการนี้ ทำด้านการจัดการภัยพิบัติโดยชุมชน และขับเคลื่อนด้านนโยบายและแผนของภาครัฐ ที่เกี่ยวข้องกับงานภัยพิบัติในทุกๆด้านครับ
สารากร : ทำมานานหรือยังคะ
ณัฐรัช : โครงการนี้เริ่มมาปีนี้เข้าปีที่สอง
สารากร : ต้องลงพื้นที่ตลอดเวลาใช่หรือเปล่า
ณัฐรัช : ก็ไม่เชิงครับ ก็กลับมาช่วยงานด้านต่างๆด้วย
สารากร : ตามสถานที่ต่างๆที่ได้ไปส่วนมากเป็นพื้นที่ชนบทที่มีปัญหาแบบไหนบ้าง แล้วในเมืองมีปัญหาที่ว่านี้ไหม
ณัฐรัช : ปัญหาที่พบมันหลากหลาย ถ้าเป็นชนบท จะเจอปัญหาภัยพิบัติ น้ำป่า ดินถล่ม น้ำแล้ง ไฟป่า ส่วนในเมือง จะเป็น น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมฉับพลัน หมอกควันอันเนื่องมาจากไฟป่า
สารากร : นี่ถือว่าเป็นงานที่น้อยคนจะได้สัมผัสเลยจริงๆ ว่าไหม
ณัฐรัช : ก็น่าจะใช่ครับ เพราะมีคนลงมาทำงานในเรื่องนี้ค่อนข้างจำกัด ในส่วนของภาคประชาชนนะ เพราะเค้ามองว่าเป็นเรื่องไกลตัว
สารากร : แล้วทำไมถึงลงมาทำล่ะคะ
ณัฐรัช : ก็มันมีปัญหาไงครับ ต้องแก้จากต้นตอ ไม่ใช่แก้จากด้านบน มันไม่จบสักที
สารากร : แล้วทำไมคุณถึงมาทำงานแบบนี้ไม่คิดว่ามันลำบากบ้างหรือ
ณัฐรัช : ไม่คิดหรอก คนลำบากกว่าเรามีอีกเยอะ อย่ามองคนที่สูงกว่า มองคนที่ด้อยกว่าแล้วเราจะรู้ว่า มันสำคัญ
สารากร : อะไรคือแรงบันดาลใจให้ทำงานเพื่อผู้อื่นของคุณคะ
ณัฐรัช : งานอาสาสมัคร ที่สึนามิ เห็นคนที่ทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งอาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ต่างๆ
สารากร : แปลว่า การช่วยเหลือคนอื่น ช่วยสภาพแวดล้อม คือความสุขของคุณ
ณัฐรัช : เปล่า ความสุขของเราคือ การที่เห็นคนรู้คุณค่าของธรรมชาติ ธรรมชาติ ไม่เคยทำร้ายใคร แต่คนไปทำลายมันเยอะ(หัวเราะ)
สารากร : ในรูปแบบของการดำเนินชีวิตทั่วๆไป มองว่าบันไดของความก้าวหน้า คือการได้ทำงานที่ให้เม็ดเงินหน่วยสูง การครอบครองทรัพย์สินที่เพิ่มพูนจากการทำงาน คุณมองเรื่องนี้ยังไง กับหน้าที่การงานตรงนี้ ที่ให้ผู้อื่นมากกว่ารับ
ณัฐรัช : รูปแบบนี้ สังคมเมืองคงใช่ แต่ในชนบทแล้ว การพึ่งพาตนเอง และพึ่งพาอาศัยกันในชุมชนยังมีให้เห็นอยู่อีกเยอะ การที่ให้นั้นไม่ใช่ให้เปล่านะ ไม่ใช่สังคมสงเคราะห์ แต่เป็นการกระตุ้นให้ชุมชนหรือหน่วยงานนั้นๆที่เกี่ยวข้องออกมาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะเค้าเป็นเจ้าของไม่ใช่เรา
สารากร : แล้วคุณคิดไหมว่าต่อไปในอนาคต คุณอาจไม่มีเหมือนคนอื่นๆ เช่น บ้าน รถ เงินในบัญชี เพราะมัวแต่ทำงานแบบที่ค่าตอบแทนไม่เหมือนคนที่ทำงานทั่วๆไป
ณัฐรัช : คิดว่ามันอยู่ที่ตัวเรานะ ถ้าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยก็คงไม่มีเก็บหรอก จะมากจะน้อย ก็ขอให้ไม่ตกงานละกัน
สารากร : คิดว่าการทำงานที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จไหม
ณัฐรัช : ยังหรอกครับ ยังมีอะไรให้ทำอีกมากมาย มีครับ ก็มีหลาย องค์กร ไม่ว่าภาครัฐ หรือเอนจีโอ หรือประชาชน ต่างเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้น
สารากร : แบบนี้คุณคงไม่เหงา มีใครที่ทำงานแบบเดียวกับคุณอีกไหม
ณัฐรัช : ไม่เหงาหรอกครับ เพื่อนๆพี่ๆเยอะเลย สนุกดีครับ
สารากร : คิดว่าตัวเราแปลกแยกจากคนส่วนมากในเมืองไหม
ณัฐรัช : ไม่หรอกครับ ต่างคนก็มีทางเดินของตัวเอง ..จะรักจะชอบสิ่งไหน ก็อย่าผิดกฎระเบียบ ก็พอละ
สารากร : อยากฝากอะไรถึงคนอื่นๆที่อยากทำงานทางด้านนี้บ้างคะ
ณัฐรัช : ก็ไม่มีหรอกอะไรมากมายครับ ขอแค่มีใจที่ทำงานด้านนี้ และตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น อย่าท้อถอย ยังมีคนอีกเยอะครับที่เราเข้าไม่ถึง
การทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม อาจหมายถึงการทำงานเพื่อตนเอง แต่เป็นการทำเพื่อทั้งตนเองและผู้อื่น งานในลักษณะเช่นนี้เป็นเครื่องวัดว่า เราเป็นแค่ไหนของโลกและของสังคม หากเพียงแค่เราทำอะไรเพื่อส่วนรวมบ้างไม่ว่าเราจะยืนอยู่ตรงจุดไหนก็ข้ามรั้วความเห็นแก่ตัวที่สังคมของเราถูกหล่อเลี้ยงไว้ได้อย่างแน่นอน ไม่เชื่อลองอดใจไม่ทิ้งขยะในที่ห้ามทิ้ง ลองไม่สูบบุหรี่ในที่สาธารณะ ลองอดใจสักนิดที่จะเอื้อเฟื้อให้คนที่อ่อนกำลังกว่า ลองออกจากกรอบความเห็นแก่ตัวดู คำตอบอยู่ที่ตัวเราเองว่ารู้สึกสดชื่นแค่ไหนที่ข้ามพ้นมาได้ •
ทำไหมไม่เลือกทำงานที่ศูนย์กระจกเงาเชียงรายค่ะ จากนักศึกษาพฤษภาคม 2547
ที่ทำงานมีเพื่อนเยอะป่าว
จะติดต่อพี่ได้ที่ไหนค่ะ